top of page
รูปภาพนักเขียน

แนะนำศัลยแพทย์: ดร.คิมยงจู (Dr. KIM YONG JU)

คุณหมอ คิม ยงจู (Kim Yong Ju)

มีความเชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมจมูกและตา







ประวัติการศึกษาและประสบการณ์การทำงาน

  • แพทย์แผนกวิสัญญี โรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ

  • สำเร็จการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโซล

  • วิสัญญีแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาโซล

  • หัวหน้าแผนกวิสัญญี โรงพยาบาลฮันกุกโบฮุน

  • สมาชิก Korean Society of Anesthesiologists

  • สมาชิก Korean Pain Society



การทำงานของดร.คิมยงจู (Dr. KIM YONG JU) ในฐานะวิสัญญีแพทย์ที่โรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ


การทำงานของคุณหมอคิมยงจูจะเป็นการทำงานภายใต้พื้นฐานของสถาบันทางการแพทย์ที่มีความน่าเชื่อถือไปตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจร่างกายที่ครอบคลุมโดยการเตรียมการของบาโนบากิ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก ซึ่งการตรวจสภาพร่างกายอย่างละเอียดก่อนการผ่าตัดเป็นพื้นฐานของความปลอดภัยนั้นที่โรงพยาบาลบาโนบากิมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่หลากหลายที่สามารถตรวจสอบร่างกายที่พร้อมให้คนไข้สามารถรับการตรวจเช็คร่างกายแบบครอบคลุมได้


หลายๆ คนที่สงสัยว่าวิสัญญีแพทย์จำเป็นยังไงในการทำศัลยกรรม ในขั้นตอนนี้เป็นส่วนแรกที่ต้องคำนึงถึงให้มากที่สุดเพราะหากไม่มีการตรวจร่างกายแบบครอบคลุมก่อนการผ่าตัดแล้วคุณหมอก็จะไม่สามารถประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก่อนผ่าตัดได้ ดังนั้นการทำงานของดร.คิมยงจู (Dr. KIM YONG JU) ในฐานะวิสัญญีแพทย์ คือการเช็คสภาพร่างกายของคนไข้แต่ละคนได้อย่างแม่นยำสามารถตรวจพบโรคประจำตัวที่ไม่เคยรู้มาก่อนเพื่อเช็คว่าสามารถเข้ารับการผ่าตัดด้วยการวางยาสลบได้อย่างปลอดภัยและเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขณะผ่าตัดได้ ทั้งนี้การตรวจร่างกายที่ครอบคลุมแบบพิเศษของบาโนบากิ เป็นหนึ่งในปรัชญาการรักษาของโรงพยาบาลที่คำนึงถึงคนไข้เป็นอันดับแรก และยังเป็นพื้นฐานของสถาบันการแพทย์ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักอีกด้วย



การตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อนทำการศัลยกรรม

ในส่วนของการตรวจร่างกายเบื้องต้นนั้นคุณหมอคิมยงจูตรวจความดัน,ส่วนสูงและน้ำหนัก วัดค่ามวลร่างกายเพื่อตรวจระดับโรคอ้วนในเบื้องต้น ดังนี้


1. ความดัน: วัดความดันในเส้นเลือดที่จะสามารถส่งออกซิเจน และเลือดขึ้นไปหล่อเลี้ยงได้ทั่วร่างกายและหัวใจ ในกรณีที่ความดันสูงหรือความดันต่ำ ขณะผ่าตัดอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นได้ เพราะฉะนั้นจึงมีความจำเป็นต้องตรวจความดันก่อนผ่าตัดทุกครั้ง

2. ส่วนสูงและน้ำหนัก: ตรวจวัดมวลร่างกาย (BMI) เพื่อหามาตรฐานน้ำหนัก

3. เพศชาย น้ำหนักมาตรฐาน = ส่วนสูง(M)2 x 22

4. เพศหญิง น้ำหนักมาตรฐาน = ส่วนสูง(M)2 x 21

5. ตรวจระดับโรคอ้วน: น้ำหนักปัจจุบัน ÷ น้ำหนักมาตรฐาน



6. ตรวจเลือดโดยการทดสอบความเข้ากันได้ของการถ่ายเลือด,ตรวจหาเลือดจาง,ตรวจสอบการแข็งตัวของเลือด

  • การทดสอบความเข้ากันได้ของการถ่ายเลือด(Cross matching) ที่จะทำก่อนการถ่ายเลือด จะต้องมีการตรวจเลือดเพื่อหาความเข้ากันได้ของกลุ่มเลือดระหว่างผู้บริจาคเลือดและผู้รับเลือด ตรวจปฏิกิริยาการแข็งตัว เป็นขั้นตอนการคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องเลือกกลุ่มเลือดที่เหมาะสม

  • การทดสอบCBC (Cell Blood Count) ที่เป็นการตรวจสอบปริมาณและลักษณะความหนาแน่นของเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ถูกดูดออกมา

  • ตรวจสอบการแข็งตัวของเลือด (PT-PTT) ซึ่งจะตรวจสอบเกล็ดเลือดและปัจจัยการแข็งตัวของเลือดก่อนการผ่าตัด และคาดการณ์สถานการณ์อันตรายที่อาจเกิดการเสียเลือดในขณะผ่าตัด


7. ตรวจมะเร็งที่อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งที่กลายเป็นเซลล์มะเร็ง สามารถตรวจพบได้ในช่วงแรกโดยผ่านการตรวจเลือด

8. ตรวจหาโลหะหนักในร่างกาย ซึ่งถ้าโลหะหนักถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายแล้ว จะไม่สามารถถูกขับออกมาได้ จะทำให้เกิดอาการผิดปกติที่ระบบเส้นประสาทและระบบย่อยอาหารได้

9. ตรวจอัลตราซาวด์ ในจุดนี้คุณหมอคิมยงจูจะทำงานร่วมกับทีมแพทย์ท่านอื่นๆ เพื่อตรวจอัลตราซาวด์โดยจะทำก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก เพื่อเช็คว่ามีโรคเกี่ยวกับทรวงอกหรือไม่และเพื่อวิเคราะห์สภาพร่างกายว่าพร้อมกับการผ่าตัดหรือไม่

10. ตรวจเช็คคลื่นหัวใจ โดยเป็นการเก็บบันทึกกราฟที่แสดงการทำงานของหัวใจที่มีการเต้นเป็นจังหวะเพื่อออกคำวินิจฉัยของสภาพหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจและชีพจรผิดปกติหรือไม่ เป็นต้น




ติดตามโปรโมชั่นศัลยกรรมเกาหลีได้ที่

LINE : @oppame หรือ www.connextchat.com/oppame

Website : www.oppame.com



ดู 0 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

コメント


bottom of page